วันที่เราจะมาพูดถึงทริปภูทับเบิก เราไปกันทั้งหมด 6 คน รถยนต์ 2 คัน เริ่มออกเดินทางวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม เดินทางจากจังหวัดมหาสารคาม วันที่ออกเดินทางบรรยากาศดีมาก ไม่มีฝน เราออกเดินทางเวลา 10.00 น. ไปถึงภูทับเบิกก็เวลา 16.00 น. ที่ถึงช้าเพราะเราจอดแวะปั้ม เข้าห้องน้ำ พอไปถึง ตอนขับรถขึ้นบนภูทับเบิก มีฝนตกตลอดเส้นทาง ทั้งฝนทั้งหมอก แทบมองไม่เห็นทาง แต่พอขึ้นไปถึงที่พัก ก็ไม่มีฝนตกเลย ที่พักเราเลือกพักที่ ไร่แสงตะวัน ภูทับเบิก ที่พักเป็นแบบบ้านพักมีลานกางเต็นท์ โดยที่พักคืนละ 1,500 บาท พักได้ 4 คน และจุดกางเต็นท์ ราคาคนละ 100 บาท เราเลยพักบนบ้าน 3 คน พักในเต็นท์ 3 คน ซึ่งบรรยากาศที่พักดีมาก อุณหภูมิต่ำสุดวันนั้น 16 องศา มีหมอกเยอะพอสมควร
วันที่ 10 ตุลาคม วันที่ 2 ของการไปเที่ยว เราตื่นขึ้นมาดูหมอกตอนเช้า และก็รีบทำธุระส่วนตัว เพื่อจะเช็คเอ้า และไปเที่ยวสถานที่อื่นต่อ เมื่อเราลงมาจสกภูทับเบิก ก็เเวะซื้อของฝาก และแวะกินข้าวเช้าที่ข้างทาง และมุ่งหน้าต่อไปยังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งทางขึ้นหลักได้ปรับปรุงเส้นทางเราจึงต้องไปขึ้นอีกทางหนึ่ง เป็นเส้นทางที่ชันพอสมควร บรรยากาศบนวัดวันนั้นแดดแรงพอสมควรแต่ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่ และมีหมอกลอยผ่านหัวเราเยอะมาก คนก็ขึ้นไปไหว้สักการะเยอะมากและก็มีการคัดกรองด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่มาท่องเที่ยว หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปต่อที่ เขาเหลียงซาน ซึ่งเป็นคาเฟ่ที่อยู่บนเขา มีทางขึ้นที่ชัน เราไม่สามารถที่จะขับรถขึ้นเองได้ และทางเจ้าหน้าที่ก็มีรถรับส่งพาขี่ขึ้นไป จะต้องจ่ายค่าบริการคนละ 100 บาท แต่เราจะได้เครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว ข้างบนบรรยากาศดีมาก และวันนั้นเราขึ้นไปไม่นานเพราะเหมือนฝนจะตกเลยต้องรีบลงมา และเราก็ไปต่อที่ เดอะบลูสกายรีสอร์ท เขาค้อ ซึ่งที่ตรงนี้เป็นที่พักและเป็นสวนเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป ค่าเข้าคนละ 100 บาท ภายในที่ตรงนั้น มีที่ให้ถ่ายรูปที่มีวิวสวยงาม ภายในนั้นจะมีทั้งสวนหญ้า สวนดอกไม้ ตึก และอีกหลายๆอย่างให้เราเข้าไปสัมผัส หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับ และเเวะซื้อของฝาก เราก็เดินทางกลับมาเส้นทางเดิม เรามาถึงมหาสารคาม 21.30 น. และก็จอดกินข้าวกันและก็แยกย้ายกันกลับ