คุณแม่ผมแกเป็นคนสิงห์บุรีครับ ช่วงนี้แกเดินทางกลับค่อนข้างบ่อยแทบทุกอาทิตย์เพื่อไปทำธุระ มีอยู่อาทิตย์นึงช่วงที่งานของผมยังไม่เร่งมากไม่มีอะไรที่ต้องทำส่งเร่งด่วน เลยถือโอกาสไปด้วย กะไปไหว้พระแล้วก็จัดทริปลองระบบด้วยในคราวเดียวกัน ว่าแล้วเข้าทริปไนซ์เดย์จัดทริปแบบเร่งด่วนโดยจุดหมายคือจากนนทบุรีไปยังอำเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี
เห็นสถานที่น่าสนใจที่ระบบแนะนำขึ้นมาให้อยู่สองสามจุดเลยปักหมุดไว้ ว่าจะไปพุทธอุทยานมหาราชซึ่งมีรูปหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ติดถนนสายเอเชีย แล้วก็ไปวัดไชโย ซึ่งเป็นวัดที่มาสิงห์บุรีทีไรก็จะแวะที่วัดนี้ตลอด เข้าไปไหว้พระ ซื้อขนมสมัยก่อนอย่างขนมกง วันไหนอากาศดีหน่อยก็ไปให้อาหารปลาที่ท่าน้ำได้ ต่อจากนั้นจะไปตลาดบ้านแป้ง กินขนมเบื้อง ผัดไทยพื้นบ้าน ก่อนแวะวัดอัมพวันที่อยู่ใกล้กัน ขากลับหลังจากทำธุระที่อินทร์บุรีเสร็จก็ว่าจะแวะอีกที่สองที่คือวัดพิกุลทอง และวัดขุนอินฯก่อนกลับบ้าน
ทริปที่จัดคร่าวๆ จะแนบอยู่ท้ายบทความตรงด้านล่างสถานที่ครับ เดี๋ยวเราจะไปดูกันว่าจังหวัดสิงห์บุรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย กับจังหวัดอ่างทองที่มีวัดใหญ่ชื่อดังมากมายจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเล้ย
พุทธอุทยานมหาราช
หลังจากจ่ายเงินค่าทางด่วนลงบางปะอินมาได้ไม่นาน เลยแยกวรเชษฐ์ที่จะเลี้ยวไปทางตัวจังหวัดอยุธยาขึ้นมาไม่ไกลก็จะเจอพุทธอุทยานมหาราช หรือเห็นรูปหล่อหลวงพ่อทวดแต่ไกล ด้วยความใหญ่โตติดถนนใหญ่ สถานที่กว้างขวางมีที่จอดรถเยอะ ด้านหน้าเป็นตลาดขายขนม ผลไม้ และของกินมากมาย เดินเข้ามาด้านในจะมีที่ให้นั่งพักผ่อนและเป็นจุดไหว้พระ สถานที่เป็นสถานที่โล่งแจ้ง ใครมากลางวันพกร่มกันมาด้วยก็ดีครับ
เดินเข้ามาหน่อยก็จะมีศาลาริมน้ำให้นั่งร่มๆ ผู้เฒ่าผู้แก่สามารถมานั่งพักผ่อนได้โดยไม่เหน็ดเหนื่อยในการเดินทางจนเกินไป วันที่ไปนั้นบริเวณที่จุดธูปไหว้พระมีคนนำไก่มาวางเต็มเลย
ของกินที่ตลาดค่อนข้างเยอะมีทั้งก๋วยเตี๋ยวและร้านข้าวตามสั่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศโดยรวมดีใช้ได้ หรือใครจะซื้อของกินจุกจิกอย่างขนมที่หาทานไม่ได้ง่ายในกรุงเทพก่อนออกจากที่นี่ก็มีให้เลือกมากมาย
วัดไชโย
เป็นวัดที่ครอบครัวผมมาสิงห์บุรีทีไรก็จะแวะก่อนตลอด ภายในวัดก็จะมีตลาดขายของกินอยู่อีกเหมือนกัน เดี๋ยวนี้เหมือนรู้สึกว่าคนมาวัดวันเสาร์อาทิตย์น้อยลงกว่าเมื่อก่อน ที่จอดรถเลยโล่งๆหน่อย ไม่ต้องวนหานาน เข้ามาในบริเวณวัดเดี๋ยวนี้ก็ร่มรื่น ทางวัดพัฒนาพื้นที่จุดต่างๆ ให้คนมาไหว้พระเข้าโบสถ์ได้ง่ายขึ้น ไฮไลท์ของวัดนี้คือพระประธานองค์ใหญ่ที่ภายในมีความเงียบสงบน่าเลื่อมใส
ใครที่อยากจะเดินไปปล่อยปลา หรือให้อาหารปลาก็เดินไปที่ท่าน้ำของวัดได้ มีลมพัดเข้ามาตลอดเย็นสบาย ถือเป็นอีกวัดที่มีคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวแวะมาไม่ขาดสาย
ตลาดบ้านแป้ง
ออกจากวัดไชโยมาตลาดบ้านแป้งนี่ก็ไม่ไกลกันมาก จะใช้ถนนหลักสายเอเชียเหมือนเดิม หรือถนนเลียบคลองประปา(ถนนทางหลวงชนบท) ก็เดินทางได้เหมือนกัน ใครที่ไม่ชอบขับรถออกถนนใหญ่เพราะรถใหญ่วิ่งเยอะ รถมาเร็ว ก็สามารถมาใช้ทางเส้นรองข้างในใกล้ๆกับวัดไชโยเลาะไปก็ได้
จริงๆ แล้วตลาดบ้านแป้งก็เป็นอีกที่นึงที่แวะบ่อยตอนมาสิงห์บุรี ตัวตลาดเป็นชุมชนเล็กๆ เน้นขายอาหารพื้นบ้านเช่น ผัดไท ก๋วยเตี๋ยว ขนมเบื้องโบราณ ส้มตำอะไรประมาณนี้ เป็นสไตล์นั่งทานอาหารในบ้านของคนที่นี่ ไม่ว่าจะสั่งร้านไหนก็นั่งทานได้ทุกบ้านถ้าที่ว่าง ตลาดมีที่จอดรถในร่มสะดวกสบาย ถ้ามาช่วงเทศกาลก็อาจจะต้องหาที่นั่งลำบากหน่อย เพราะคนเข้ามาเยอะเหมือนกัน
ที่สำคัญคืออาหารอร่อย ไม่แพง ขนมเบื้องโบราณดีมาก
วัดอัมพวัน
หลายคนอาจจะรู้จักวัดอัมพวันจากหลวงพ่อจรัญ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ใครหลายคนต่างให้ความเคารพมาก สมัยที่ท่านยังไม่มรณภาพนั้นวัดอัมพวันถือเป็นอีกวัดนึงที่คนมาเยอะมาก ตัววัดก็จะเดินทางง่ายอยู่ติดกับถนนใหญ่ วัดนี้มีคนมาปฏิบัติธรรมเยอะพอสมควร ตอนที่ผมไปนั้นข้างหน้าทางเข้าตัววัดกำลังสร้างโบสถ์ใหม่ คาดว่าเสร็จแล้วน่าจะใหญ่โตสวยงามเลยล่ะ
นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาสักการะอัฐิหลวงพ่อจรัญได้ตามปกติ ควรแต่งกายสุภาพ และควรลดการใช้เสียงเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่นในการปฏิบัติธรรมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
วัดพิกุลทอง
หลังจากทำธุระทั้งบ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขากลับก็แวะเข้าอ่างทองไปวัดพิกุลทองสักหน่อย วัดพิกุลทองมีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือพระองค์ใหญ่ที่ตั้งเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางพื้นที่ราบ(เมื่อก่อนเป็นทุ่งนา) คนนิยมมาถ่ายรูปช่วงยามเช้าและยามเย็นจะได้รูปที่สวยงามมากเพราะไม่มีอะไรบังองค์พระ
ตอนนี้ทางวัดทำทางเข้าใหม่ เป็นถนนตัดฝั่งละ 3 เลนมุ่งหน้าเห็นตัวพระได้เลย ถนนสวย สะอาด ตอนเย็นๆมีคนมาออกกำลังกายปั่นจักรยานกันเยอะเหมือนกัน ในตัวบริเวณวัดแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีถนนตัดผ่านกลาง ฝั่งพระใหญ่จะเป็นลานโล่งมีตลาดขายของกินเล็กน้อย หน้าองค์พระมีบ่อปลา พระพิฆเนศ พระราหู บรรยากาศร่มรื่น มาเดินเล่นพักผ่อนยามเย็นนี่สบาย
วัดขุนอินทรประมูล
วัดสุดท้ายก่อนกลับบ้านเป็นวัดพระนอนกลางแจ้ง ถ้าจำไม่ผิดคือ พระนอนที่วัดขุนอินทรประมูลนี่น่าจะเป็นพระนอนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในไทย เส้นทางอาจจะขับเข้ามาลึกนิดนึง สองฝั่งข้างทางเป็นทุ่งนาสลับข้าวโพดและไร่อ้อย มายามเย็นเปิดกระจกขับรถก็อากาศดี ได้กลิ่นไอดินเป็นธรรมชาติมากๆ
เมื่อมาถึงตัววัดแล้วจะเห็นพระนอนองค์ใหญ่สะดุดตา ถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ไฮไลท์คือพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่นอนอยู่กลางแจ้ง ด้านหลังเป็นศาลามีจิตกรรมฝาพนังแบบสมัยใหม่ ถ้ามากลางวันก็อาจจะเจอแดดแรงหน่อย แต่ถ้ามาช่วงเย็นแล้วจะสบายมาก ถ่ายรูปได้แสงสวย เดินชมรอบบริเวณได้สบาย
จริงๆ อยากจะแวะวัดอื่นที่อยู่ในอ่างทองอีกแต่คงไม่ทันเพราะหมดวันก่อน การเดินทางมาจังหวัดสิงห์บุรี หรืออ่างทองก็ไม่ยากหรือใช้เวลาในการเดินทางนานเลย แค่ขับตรงจากอยุธยาขึ้นมาประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงแล้ว ใครจะมาแวะท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ดูค่ายบางระจัน ดูวัดวาอารามบ้านช่องสมัยก่อนแบบเช้าเย็นกลับ ก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่เดินทางง่าย มีตลาดของกินตลอดทาง เหมาะกับการมาพักผ่อนวันหยุดแบบชิลๆกับที่บ้านครับ