การเดินทางขึ้นเหนือของผมในวันที่ 3 นี่เป็นวันที่เดินทางกลับจากเขาค้อย้อนไปที่พิษณุโลก รีสอร์ทที่พักคืนที่ผ่านมาจะเป็นบ้านดินที่เงียบสงบ ห่างจากความเจริญของเขาค้อประมาณ 1 กม. ซึ่งเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี กลางคืนนอนได้ยินแต่เสียงจั้กจั่นกับลมพัดต้นไม้ไหว ใครที่ชื่นชอบความเงียบอยากมาพักผ่อนจริงๆ ผมแนะนำเลยที่ กระท่อมน้อยของลุงทอม (หรือ uncle tom's cabin at khaokho) ตกคืนละเกือบ 2 พันครับ
ตื่นมาเช้าๆ ทานอาหารตรงที่พักคุยกับพี่ที่ดูแลที่พักพอประมาณ แกก็อัธยาศัยดีชวนคุย เดินดูแปลงผักดูไก่ชิมสตรอเบอรี่ไปเรื่อย จากนั้นเกือบๆ แปดโมงเลยขึ้นไปเที่ยวที่ทุ่งกังหันลมต่อ ซึ่งน่าจะเป็นไฮไลท์ของคนที่มาเขาค้อเลยล่ะ
ไปช่วงเช้าวันธรรมดาคนค่อนข้างน้อย อากาศเย็นสบายประมาณ 22~25 องศา ทางขึ้นค่อนข้างดีแต่เป็นทางชันขึ้น-ลงเขา อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่าขับเร็วจนเกินไป ขึ้นมาแล้วจะเจอที่จอดอยู่ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ GB ซึ่งเก็บค่าเข้าคนละ 10 บาท ว่าแล้วก็เดินเข้าไปดูสักหน่อย
ไร่ GB สวนดอกไม้ เขาค้อ
ถ้ามาช่วงเช้าเนี่ย แดดกำลังสวย เราสามารถเดินเข้าไปที่ทางเดินระหว่างแปลงที่ปลูกดอกไม้ได้ ซึ่งดอกไม้จะมีหลากหลายทั้งต้นเล็ก ต้นสูง ออกดอกออกช่อสีสันสวยงาม โดยเฉพาะดอกเวอร์บีน่าที่มีเป็นทุ่ง มีม้านั่งให้หลบมุมถ่ายได้สวยๆ ใครชอบทุ่งดอกไม้ก็ลองแวะมากันครับ
จุดชมวิวเขาค้อ
อยู่ใกล้กับทุ่งดอกไม้ GB แต่จะอยู่ตรงข้ามกัน ตรงนี้มีที่จอดประมาณ 10 คัน เมื่อจอดแล้วจะมีร้านค้า ขายของจุกจิกทั่วไป มีร้านกาแฟน่านั่งอยู่ร้านนึง แต่วันที่ผมไปนั้นเป็นวันธรรมดาช่วงเช้าเลยไม่ได้เปิด ด้านล่างจะเป็นเต็นท์สามารถเช่านอนได้ ถ้ามาช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้เห็นหมอกหนาตา ถ่ายรูปได้โดยใช้กังหันลมเป็นพื้นหลังน่าชมยิ่งนัก
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เลยขับรถลงเขาจากจุดชมวิวไปเที่ยวน้ำตกที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลกันมากอย่างน้ำตกศรีดิษฐ์ดีกว่า
น้ำตกศรีดิษฐ์
เป็นน้ำตกที่อยู่ในพื้นที่ของเขาค้ออยู่ครับ เราสามารถขับลงจากทุ่งกังหันลมลงมาจนเจอแยกที่ซ้ายไปพระตำหนักเขาค้อกับขวาที่จะไปทางทุ่งแสลงหลวง ให้เราขับมาทางขวาไปประมาณ 7 กม. ก็จะเจอทางเข้าน้ำตกศรีดิษฐ์ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งเราสามารถเอารถเข้ามาจอดข้างหน้าได้ แล้วเดินผ่านตลาดขายของเข้าไปที่ตัวน้ำตกได้สบายๆ
น้ำตกศรีดิษฐ์เป็นน้ำตกที่ไม่สูงมากนัก ลักษณะเป็นผาแล้วมีแอ่งให้เล่นน้ำอยู่ด้านล่าง พื้นที่ของแอ่งนั้นกว้างสามารถเล่นน้ำได้อย่างสบาย เป็นน้ำตกที่บรรยากาศโดยรอบดี เป็นธรรมชาติ ถ้ามาช่วงเช้าๆ จะไม่ค่อยมีคน มานั่งปิกนิกฟังเสียงน้ำตก เสียงนกร้องได้เพลินหูเพลินตามากๆ ผมมาช่วงประมาณเก้าโมงเช้า ไม่มีคนนั่งชิลหน้าน้ำตกชอบมากเลยล่ะครับ
อยู่ที่นี่ประมาณสี่สิบนาทีก็ขับรถกลับไปเก็บข้าวของออกจากที่พักขับรถกลับไปพิษณุโลก ระหว่างทางคิดว่าเจออะไรน่าสนใจก็จะแวะไปเรื่อยสบายๆ เพราะวันที่สามขับรถมาค่อนข้างไกล ก็ค่อนข้างล้าพอสมควรแล้วเหมือนกัน
สะพานสลิง อช.ทุ่งแสลงหลวง
คือต้องบอกว่าทุ่งแสลงหลวงเนี่ยมีพื้นที่กว้างใหญ่อยู่ในบริเวณของหลายจังหวัด (เหมือนกับอช.เขาใหญ่) ทางที่ผ่านมาเจอนี่คือทางกลับจากเขาค้อก่อนเข้าพิษณุโลก ตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้าไปซื้อหนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติอย่างเดียว แต่ไหนๆเข้ามาแล้ว และพี่เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่าลองเข้าไปเที่ยวสะพานสลิงดูไหม ก็เลยขับรถจากตัวสำนักงานเข้าไปประมาณ 2 กม.
ระหว่างทางเป็นทางลาดยางปกติ สองข้างทางเป็นป่าเขาเส้นทางอาจจะแคบบ้างในบางจุด ไม่ควรใช้ความเร็วเพราะเป็นทางขึ้นลงเขา บางจุดเป็นโค้งหักศอกต้องใช้แตรให้สัญญาณด้วย พอขับมาถึงแล้วก็จะเจอที่จอดรถตรงจุดสะพานสลิง มีร้านค้าสวัสดิการอยู่ร้านนึง สามารถเดินลงไปเล่นน้ำข้างล่างได้ หรือจะยืนให้อาหารปลาอยู่บนสะพานก็ได้เหมือนกัน
สะพานสลิงเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเข็ก ซึ่งเชื่อมระหว่างสองฝั่งของ อช.ทุ่งแสลงหลวง ใครที่ชื่นชอบการตระเวณลุยเดินป่าก็จอดรถไว้ตรงนี้แล้วเริ่มต้นเดินข้ามสะพานสลิงไปได้ผมลงมาถ่ายรูปให้อาหารปลาอยู่ไม่นานก็ออกจากสะพานสลิงกลับไปตามทางถนนใหญ่แล้วครับ เพราะวันที่ไปนั่นประมาณเที่ยงของวันศุกร์ ซึ่งไม่มีคนเลย มีผมคนเดียวที่อยู่แถวนั้น
น้ำตกแก่งโสภา
เคยได้ยินชื่อของน้ำตกแก่งโสภามานานแล้ว และระหว่างที่ขับรถอยู่ก็เจอทางเลี้ยวเข้าพอดีเลยถือโอกาสแวะลงไปดูเสียหน่อย ทางเข้าน้ำตกจะอยู่ในเขต อช.ทุ่งแสลงหลวงเหมือนกันแต่คนละบริเวณ ถ้าขับรถตรงไปเรื่อยๆ ทางที่จะไปพิษณุโลกก็จะเจออยู่ติดถนนด้านซ้าย อยู่ไม่ไกลจากประตูที่เราออกมาที่แล้วมากนัก
ค่าเข้าประมาณ 30 บาทต่อคน ค่ารถยนต์เข้าอีกคันละ 40 บาท ขับเข้าไปประมาณ 2 กมก็จะเจอกับที่จอดรถของน้ำตกแก่งโสภา ค่อนข้างกว้างขวางนะ คิดว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือช่วงเทศกาลคนน่าจะมาเที่ยวกันเยอะพอสมควร
ตอนนั้นร่วมบ่าย 2 ก็มีแค่ผมคนเดียวอีกเหมือนกันที่ไปเที่ยว เลยจอดแล้วเดินลงไปที่ตัวน้ำตกอีกประมาณ 500 เมตร เจอกลุ่มพี่ๆเจ้าหน้าที่เลยชวนคุยเรื่องจิปาถะ จนน้าแกบอกว่าช่วงนี้น้ำค่อนข้างน้อย ปีนี้อาจจะแล้งเลยก็ได้ อยู่มาตั้งนานไม่ค่อยได้เจอช่วงที่น้ำน้อยขนาดนี้มาก่อน
ผมลงไปดูที่น้ำตกเองก็น้อยจริงแหละ ส่วนใหญ่จะเป็นชั้นหินด้านล่างที่เป็นชั้นๆลงไปก็ไม่ค่อยมีน้ำไหลลงไปเท่าไหร่ ถ้าจะมานั่งพักผ่อนในวันหยุดก็ถือว่ามากับครอบครัวใช้เวลาด้วยกันก็สบายๆดี แต่ส่วนตัวแล้วผมจะชอบที่ศรีดิษฐ์มากกว่าเพราะรู้สึกว่ามันเย็น มีต้นไม้เขียวชอุ่มเยอะ และเป็นธรรมชาติมากกว่าแก่งโสภาตรงนี้
ลงมาถ่ายรูปเดินดูนั่นนี่อยู่แปปเดียวก็คิดว่าไม่มีอะไรเลยเดินย้อนกลับขึ้นไป แล้วขับรถออกจากตัวน้ำตกแก่งโสภายิงยาวไปพิษณุโลกเลย ตอนขับรถกลับนึกอยากจะไปวัดสักที่นึง เพราะตอนเช้าพี่ที่ดูแลที่พักชวนคุยเรื่องวัดป่า ก็เลยลองค้นหาข้อมูลในแผนที่ดูก็เจอวัดป่าศรีถาวร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองพิษณุโลกมากนัก แล้วก็น่าจะเดินทางได้ไม่ยากเพราะอยู่ติดถนนใหญ่
วัดป่าศรีถาวร
ขับรถเข้ามาจอดที่บริเวณด้านหน้าวัดแบบงงๆ เหมือนเป็นวัดร้างไม่เจอใคร พอจอดเสร็จก็เจอหลวงพี่รูปนึงทำกิจของสงฆ์อยู่ในบริเวณนั้น เลยยกมือไหว้สวัสดีหลวงพี่พยักหน้ารับแต่ไม่ได้กล่าวอะไร เราก็เลยเดินเข้าไปด้านในของตัววัดซึ่งเป็นต้นไม้สูงใหญ่รอบๆทางเดิน ดูจากแผนที่หน้าวัดแล้วคิดว่าพื้นที่ของวัดน่าจะกว้างขวาง เป็นที่ใช้ปฏิบัติธรรมได้เป็นอย่างดี
เดินลึกเข้าไปจนเจอสระน้ำอยู่กลางวัด มีต้นไม้ล้อมรอบจนสุดอีกฝั่งเป็นพระพุทธรูปองค์ยืนเด่นเป็นสง่า อากาศภายในวัดไม่ร้อนเลยถึงแม้จะเป็นบ่ายแก่ๆก็ตาม ที่นี่ไม่ได้ยินเสียงอะไรหรือเจอใครเลย ไม่มีหมาแมวเดินเพ่นพ่านสักตัว ได้ยินแต่เสียงลมพัดต้นไม้ เสียงนกร้อง เป็นธรรมชาติเหมาะกับการมาอยู่กับตัวเอง หรือตัดขาดจากโลกภายนอกสักชั่วครู่
ตอนจะกลับเดินออกมาเจอหลวงพี่ก่อนขึ้นรถเลยยกมือไหว้บอกจะลากลับแล้ว หลวงพี่ท่านพยักหน้ารับไม่พูดอะไรแล้วก็เดินผ่านไปทำกิจของสงฆ์ต่อ สรุปคือมาไม่เจอใคร เจอหลวงพี่ หลวงพี่ไม่พูด อารมณ์เหมือนโยมอยากจะทำอะไร เดินไปไหนก็ตามสบาย ชอบมากเลยวัดนี้ สงบได้อยู่กับตัวเองมากๆ
จากนั้นก็ขับรถไปเช็คอินที่โรงแรม หาอะไรทานเล่นแถวนั้นก็หมดวันพอดี วันนี้เป็นอีกวันที่ขับรถค่อนข้างไกล แล้วก็เหนื่อยสะสมมาจากการขับรถเที่ยวไกลๆหลายวัน พออาบน้ำทำอะไรเสร็จก็เข้านอนแต่หัวค่ำเลย จริงๆถ่ายวิดีโอแต่ละสถานที่มาด้วย แต่เดี๋ยวคงใช้เวลาตัดต่ออะไรให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเอาลงอีกที หากใครอยากจะตามทริปเที่ยวรอบๆพิษณุโลกแบบขับรถเองก็ลองติดตามเพจ Tripniceday ไว้ได้เลยครับ เดี๋ยวจะมีอัพเดทที่เที่ยวใหม่ๆ และทริปน่าไปแนะนำให้อยู่เป็นประจำ