หากกล่าวถึงสมเด็จพุฒาจารย์โต หรือสมเด็จโต หรือสมเด็จวัดระฆังที่ชาวบ้านรวมไปถึงเซียนพระรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว หลายคนคงนึกถึงพระที่มีจริยวัตรน่าเลื่อมใสอยู่แบบสมถะเป็นแบบอย่างที่ดีของพระภิกษุ และเป็นพระอีกรูปหนึ่งที่มีรูปปั้นรูปเหมือนอยู่แทบทุกจังหวัดหรือทุกวัดในประเทศไทยเลยทีเดียว
ช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านได้สร้างวัดและพระมากมาย หนึ่งในนั้นที่เราอยากจะหยิบมาเขียนเป็นบทความชวนไปเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในวันนี้นั่นก็คือพระองค์ใหญ่ในอริยาบถ นั่ง นอน และยืน ซึ่งอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพฯ อ่างทอง และอยุธยาครับ
พระยืนวัดอินทรวิหาร กรุงเทพ
เป็นพระยืนองค์ใหญ่ปางอุ้มบาตร อยู่แถวแยกบางขุนพรหม เดินทางง่ายเพราะอยู่ในกรุงเทพ เป็นพระที่อยู่กลางแจ้งสีทองอร่าม เราสามารถไปทำบุญไหว้พระและปิดทองได้ที่เล็บเท้าขององค์พระ ด้านข้างกันนั้นเป็นอุโบสถที่มีภาพเขียนฝาผนังสวยงามเล่าถึงสมเด็จโตในหลายๆช่วงอายุของท่านด้วย
มีที่จอดรถเป็นอาคารในร่มไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทางขึ้นชันมาก ขับรถไม่แข็ง หรือรถใหญ่ไม่ควรขึ้นไปเพราะขึ้นยากและอาจจะขูดผนังได้ครับ
พระนอนวัดสะตือ อยุธยา
เป็นวัดที่อยู่ติดกับเขตจังหวัดสระบุรี อาจจะอยู่ลึกและไกลจากถนนหลักของตัวเมืองอยุธยาพอสมควร แต่เมื่อเดินทางมาแล้วเราจะพบกับตัววัดขนาดใหญ่ มีชาวบ้านในพื้นที่มาขายของบริเวณวัดไม่เงียบเหงา มีลูกศิษย์แวะเวียนไปทำบุญแก้ชงกันตลอด ใครที่มีแพลนอยากเดินทางไปไหว้วัดพระพุทธบาทตามรอยสมเด็จโต ที่ท่านไปทุกปีสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ก็เดินทางต่อได้ง่ายมาก ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
ที่วัดสะตือนี่เราจะพบกับพระนอนองค์ใหญ่อยู่กลางแจ้ง ภายในวัดมีตลาดตั้งแต่ทางเข้ามาจนถึงตัวอาคารในร่ม เป็นหลังคาโปร่งโล่งลมพัดถ่ายเทสะดวก สามารถเดินไปปิดทองได้ที่องค์พระนอน หรือจะร่วมขบวนแก้บนรอบองค์พระนอนได้ด้วย มีที่จอดรถทั้งฟรีและเสียเงิน(20บาท) รอบวัด ไหว้พระแล้วก็เลือกซื้อของก่อนกลับบ้านได้ครับ
พระนั่งวัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง
อยู่ที่วัดไชโยวรวิหาร หรือวัดเกษไชโย ตามที่เซียนพระหลายคนเรียกกัน ที่นี่เดินทางง่ายสะดวก มีที่จอดรถกว้างขวางทั้งในร่มและกลางแจ้ง ตัววัดติดกับแม่น้ำเจ้าพระยามีลมพัดเย็นสบายตลอดวัน พระองค์ใหญ่หรือหลวงพ่อโตนี่เมื่อก่อนเป็นพระที่อยู่กลางแจ้งเช่นเดียวกับที่อื่น แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้บูรณะซ่อมแซม ทำวิหารเพิ่มเติมจนทำให้พระหลวงพ่อโตองค์นี้อยู่ในร่ม สามารถเข้ามาไหว้พระทำบุญได้อย่างสะดวก
เด็กๆสามารถเดินไปที่วิหารริมแม่น้ำ แล้วเดินลงบันไดไปปล่อยปลา หรือให้อาหารปลาได้ เป็นอีกหนึ่งวัดที่อยู่คู่กับจังหวัดอ่างทอง มีคนไปทำบุญเดินตลาดกินข้าว ซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอยู่เนืองแน่นเลยล่ะครับ
ทั้งสามวัดสามารถไปวันเดียวได้เลย เส้นทางไม่ไกลกันมากโดยเราจะเริ่มที่วัดอินทรวิหารในเมืองก่อนก็ได้(สำหรับคนที่อยู่กรุงเทพ) จากนั้นก็ขึ้นไปวัดไชโยฯช่วงสายๆเที่ยงๆแวะทานข้าวที่ตลาดของวัด ก่อนกลับบ้านช่วงบ่ายถึงเย็นก็ไปแวะวัดสะตือ แล้ววนกลับมาเข้ากรุงเทพภายในหนึ่งวัน สำหรับคนที่จะหาที่พักรถ ที่ทานข้าว ร้านกาแฟระหว่างทางก็ลองใช้ระบบของทริปไนซ์เดย์ในการหาที่เที่ยวดูครับ เผื่อจะเจอจุดแวะเที่ยวที่น่าสนใจ
ถ้าใครชื่นชอบการเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เที่ยววัดไปทำบุญ หรือสายบุญก็อย่าลืมกดถูกใจเพจ Tripniceday ด้วยนะครับ เดี๋ยวจะมีแนะนำที่เที่ยวมาใหม่เรื่อยๆเลย