ขับรถเที่ยวเมืองแปดริ้วแบบวันเดียวจบ ซึ่งทริปนี้เราจะไปเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรากันครับ ออกเดินทางวันอาทิตย์จากนนทบุรีไปฉะเชิงเทราโดยปกติแล้วสามารถไปทางมีนบุรีก็ได้ หรือจะวิ่งขึ้นทางด่วนทางเดียวกับที่จะไปพัทยาแล้วออกซ้ายเข้าเมืองฉะเชิงเทราก็ได้เหมือนกัน โดยระยะทางจากบ้านผมก็ประมาณเกือบๆ ร้อยโลเห็นจะได้ น่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งประมาณนี้
ออกจากบ้านประมาณเกือบเที่ยง ขาไปเลือกเส้นทางขึ้นทางด่วนไปตัดเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ที่เลือกเส้นทางนี้เพราะว่าวัดแรกที่เราจะแวะกันคือ วัดบางปรงธรรมโชติการาม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดบางปรงนั่นเอง
วัดบางปรงธรรมโชติการาม
เหมือนเคยอ่านจากที่ไหนสักที่ว่าหลวงพ่ออู่ทองของวัดบางปรงนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ใครที่อยากได้ลาภยศโดยเฉพาะตำรวจทหารให้เลื่อนขั้นตามที่ใจหวังมักจะมากราบไหว้ขอกับหลวงพ่ออู่ทองที่วัดแห่งนี้ วัดบางปรงอยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อโสธรมาก ถ้ามาเส้นทางด่วนสามารถแวะวัดนี้ก่อนแล้วค่อยเลยขึ้นไปวัดหลวงพ่อโสธรได้เหมือนที่ผมจัดทริปเอาไว้ครับ
เมื่อเข้าประตูวัดมาแล้ว เราจะพบกับตลาดขนาดใหญ่พอประมาณที่ฝั่งซ้าย เมื่อไหว้พระเสร็จก็สามารถเดินซื้อของกินจุกจิกได้ ตรงเข้ามาหน่อยจะพบกับอาคารสวยงามที่มีเจดีย์อยู่ด้านบนซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ติดกันจะเป็นลานจอดรถในร่มขนาดใหญ่และมีวิหารอยู่ใกล้กัน
หลังจากจอดรถแล้ว ก็เข้าไปไหว้พระพุทธรูปอู่ทองในวิหารสักหน่อย วิหารจะไม่ใหญ่มาก เราจะต้องจุดธูปไหว้พระข้างนอก แล้วนำแผ่นทองไปแปะพระพุทธรูปที่ข้างใน ภายในวิหารจะมีรูปหล่อพระเกจิอาจารย์อยู่ด้านข้างซึ่งสามารถแปะทองได้เหมือนกัน
สักการะหลวงพ่ออู่ทองเรียบร้อย ก็เดินเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ที่มี 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะแบ่งออกเป็นจุด เรียงลำดับเป็นหมายเลขให้ช่วยให้นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเข้ามาใหม่รู้ได้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง ภายในอาคารชั้นล่างสุดจะมีพระราหู ซึ่งใครที่เกิดปีชงนั้นก็สามารถทำบุญแก้ปีชงได้เลย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆให้คำแนะนำ ชุดแก้ชงราคาชุดละ 99 บาท เป็นของดำทั้งหมดซึ่งทางวัดจะเตรียมเอาไว้ให้ เราจะไหว้พระราหูแล้วเดินลอดภายในอาคาร 3 รอบ เมื่อเสร็จแล้วก็จะเป็นการไหว้เจ้าแม่กวนอิม และถวายสังฆทานก็จบพิธี ใช้เวลาประมาณครึ่งถึงชั่วโมง
ชั้นสองเป็นหุ่นขี้ผึ้งพระเกจิอาจารย์หลายองค์ และชั้นที่สามซึ่งเป็นชั้นบนสุดจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ตามมุมต่างๆ ด้านบนสุดของอาคารจะเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้เราได้สักการะ ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงาม คนไม่พลุกพล่าน ร่มรื่นเพราะมีท่าน้ำอยู่บริเวณด้านหลัง ที่จอดรถสะดวกเหมาะกับการแวะทำบุญก่อนเข้าตัวเมือง
จากนั้นเราจะเดินทางต่อไปยังวัดหลวงพ่อโสธร หรือวัดโสธรวราราม ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดที่ไม่ว่าใครเดินทางมาเที่ยวแปดริ้วก็แทบจะต้องแวะวัดนี้กันทุกคน
วัดโสธรวรารามวรวิหาร
วันเสาร์-อาทิตย์วัดนี้จะเนืองแน่นไปด้วยคนที่มาไหว้บูชาหลวงพ่อโสธร แน่นอนว่าที่จอดรถจะต้องหายากตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีลานจอดหลายที่ แต่ก็ต้องดูดีๆ ด้วยเพราะบางที่จะทำท่าโบกให้เราเข้าไปจอดได้ บอกว่าจอดฟรี แต่พอลงรถให้ไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนร้านตัวเองที่ขายอยู่ข้างกันด้วยก็มี บางร้านก็ขายพร้อมให้ถุงปล่อยปลาเล็กๆติดมาหน่อย ราคาก็เป็นหลักร้อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นใครที่ไม่เคยไป อาจจะต้องระวังนิดนึงในการหาที่จอดครับ
วัดหลวงพ่อโสธรเป็นอาคารที่มีความสวยงามตั้งตระง่านโดยไม่มีอาคารใดบดบัง โบสถ์หลังใหม่นี้สร้างครอบโบสถ์หลังเดิมโดยที่ทางวัดไม่ได้ขยับหรือโยกย้ายองค์หลวงพ่อเลย นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไหว้จะต้องถอดรองเท้าไว้ก่อนเข้าโบสถ์ และจะต้องแต่งกายสุภาพ ทางวัดจะมีให้รับฝากรองเท้ารวมถึงชุดคลุมปิดไหล่ไว้บริการ แต่วันหยุดที่คนมาเยอะ หรือเป็นช่วงเทศกาล แนะนำว่าเตรียมตัวเองให้พร้อมจะดีกว่า ข้างในคนเยอะ ข้างนอกคนก็เยอะ ภายในอุโบสถจะไม่ให้จุดธูป เราจะต้องนำธูปและดอกไม้ไปวางไว้บริเวณรอบๆพระพุทธรูปเองครับ
ออกจากวัดประมาณบ่ายสามโมงเศษ ตามทริปที่จัดแล้วเราจะไปหาร้านกาแฟริมแม่น้ำบางปะกงนั่งพักกันสักหน่อยให้แดดร่มอากาศคลายร้อนกว่านี้แล้วคอยไปเดินตลาดบ้านใหม่ต่อ
Floriva Cafe
ร้านกาแฟ Floriva Cafe ที่ดูมานี้ค่อนข้างน่าสนใจ และอยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อโสธรมากนัก แล้วก็ยังเป็นทางผ่านที่จะขึ้นไปตลาดบ้านใหม่ได้ง่ายไม่ต้องย้อนไปย้อนมา ที่จอดรถนั้นอาจจะหายากหน่อยเพราะบางช่วงเป็นถนนวันเวย์เดินรถทางเดียว เราจะต้องไปวนมาแล้วหาที่จอดตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้ากะจะจอดใกล้ร้านบางทีอาจไม่มี ทำให้ต้องเสียเวลาไปวนมาใหม่ หรือจอดไกลกว่าเดิมแล้วเดินย้อนมา
โซนห้องแอร์จะมีที่นั่งประมาณ 4-5 โต๊ะ ส่วนด้านนอกที่ติดแม่น้ำก็มีจำนวนโต๊ะประมาณเดียวกัน ช่วงบ่ายแดดอาจจะยังร้อนแนะนำว่าควรนั่งข้างในดีกว่า ร้านนี้ไม่ใหญ่มาก เมนูก็จะเป็นเมนูเครื่องดื่มทั่วไป ชา กาแฟ น้ำผลไม้ปั่น อิตาเลี่ยนโซดา มีอาหารจุกจิกอย่างขนมปังปิ้ง ของหวาน และอาหารจานเดียว วันเสาร์อาทิตย์คนจะค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นจับกลุ่มมานั่งคุยเล่นหาของกินตามประสาเด็กๆ พนักงานมีจิตใจบริการและใส่ใจลูกค้าดีพอสมควรเลย
โดยรวมอาจจะหาที่จอดยากหน่อย ร้านอาจไม่ใหญ่มาก แต่ยามเย็นบรรยากาศดี ทางร้านดูเป็นกันเอง เครื่องดื่มราคาไม่แพง ถ้าแวะมาแล้วมีที่นั่งก็พักผ่อนจิบน้ำให้ชื่นใจก่อนได้สบายๆ
ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี
เป็นตลาดที่อยู่คู่กับแปดริ้วมานาน เมื่อก่อนอาจจะหาที่จอดยาก แต่เดี๋ยวนี้ทางตลาดมีลานจอดใหม่ ทำให้มีที่จอดค่อนข้างเยอะ ตัวตลาดจะเป็นชุมชนเก่าสังเกตได้จากตึกรามบ้านช่องและของขายที่คงความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ ที่นี่มีร้านอาหารริมแม่น้ำให้อารมณ์เหมือนนั่งทานข้าวบ้านญาติ ตัวตลาดจะอยู่ในร่มเป็นหลังคาสูงสลับต่ำบางช่วง ทำให้ไม่ร้อนมาก ของขายก็มีตั้งแต่ของใช้ เสื้อผ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขายอาหาร ขนมจุกจิกเหมือนตลาดอื่นๆ
ส่วนตัวมาช่วงเย็นสี่โมงกว่าๆ ซึ่งตลาดเริ่มจะวายแล้ว เลยใช้เวลานั่งทานข้าวที่นี่ เดินเล่นซื้อขนมกลับบ้าน ซึ่งใช้เวลาไม่นานก่อนจะเดินทางไปเที่ยวที่สุดท้ายซึ่งอยู่ไกลออกไปพอสมควร
อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน
ถ้าใครที่มาเที่ยวฉะเชิงเทราบ่อยหน่อยก็อาจจะเห็นว่าที่จังหวัดนี้มีพระพิฆเนศหลายองค์อยู่หลายวัด แต่ละที่ก็จะเป็นคนละปางกัน อย่างวัดสมานรัตนารามก็จะเป็นปางนอน ซึ่งผมเคยไปมาแล้วหลายปีก่อน ครั้งนี้อยากจะไปอีกที่นึงบ้างซึ่งเป็นปางยืนซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน
ออกจากตลาดบ้านใหม่ ขับรถมาประมาณ 15 นาทีผ่านถนนทางหลวงชนบทเลียบคลองประปามาแล้วเลี้ยวลัดเลาะเข้าซอยนิดหน่อยตามแผนที่ก็จะเจอพระพิฆเนศองค์ใหญ่ ยืนเห็นได้แต่ไกลท่ามกลางพื้นที่โดยรอบที่เป็นทุ่งนา เส้นทางเป็นทางลาดที่ดีไม่มีลูกรัง ที่จอดรถภายในอุทยานก็กว้างขวางน่าจะจอดรถได้เป็นหลักร้อยคัน ห้องน้ำค่อนข้างดี มีร้านกาแฟริมแม่น้ำบางปะกงให้นั่งพัก
แนะนำว่าถ้าจะมาไหว้ควรจะมาช่วงเช้า และช่วงเย็นที่ยังไม่ร้อนมาก เพราะเป็นสถานที่โล่งมีร่มบางช่วง ถ้ามากลางวันก็อาจจะร้อนนิดหน่อย ทางอุทยานมีจำหน่ายชุดไหว้ และด้านหลังจะมีที่พิธีครอบเศียร ใกล้กันจะมีพระพิฆเนศองค์เล็กจำลองอยู่ให้เราไหว้และปิดทองได้
ช่วงขากลับใช้เส้นทางมีนบุรีซึ่งสามารถเลี่ยงรถติด หรือรถขาเข้ากรุงเทพที่กลับมาจากพัทยาได้พอสมควร เส้นทางที่ใช้จะวิ่งไปชนบางกะปิก็ได้ หรือจะวิ่งตรงทะลุไปออกรามอินทราเข้าหลักสี่ก็ง่าย จบทริปแบบครึ่งวันที่เมืองแปดริ้ว ไหว้พระ เดินตลาดน้ำ ขอพรพระพิฆเนศได้แบบวันเดียวชิลๆ
