อีกหนึ่งจุดหมายกับการเดินทางไปกับ tripniceday
Fourbuta cafe ภาพจริงเกินปกมากเลยร้านนี้ คะแนนเต็ม 10 ให้ 10 ไปเลย ได้จากไหนบ้าง มาดูกันค่ะ
ตั้งแต่จอดรถก้าวเข้าไปในร้าน มาตรการความสะอาดที่นี่เข้มแข็งมาก คือจริง ๆ ก็มีจุดให้ลงชื่อ วัดไข้เหมือนทั่วไป แต่ไม่ใช่เพียงแต่วางไว้ นั่นคือกำชับลูกค้าให้ปฏิบัติตามด้วยความสุภาพ มีจุดบริการไว้เป็นสเต็ปไปเลย ตั้งแต่ลงชื่อ แล้วให้ล้างมือด้วยสบู่เหลว มีทิชชู่ให้พร้อมสรรพ (ทิชชู่คุณภาพดีด้วยนะ ไม่ใช่เปื่อยยุ่ย) เช็ดเสร็จทิ้งถังขยะตรงนั้นเลย มีชายหนุ่มใส่แมสก์มาวัดไข้ให้ (ใช่เจ้าของหรือเปล่าไม่รู้นะ ไม่กล้าถาม จริง ๆ ได้ข่าวมาว่า เจ้าของที่นี่หล่อและยังไม่แต่งงาน 555+) เดินขึ้นไป 2 - 3 ก้าว มีเจลล้างมือให้อีก คือมีทั้งแบบน้ำแบบแห้งกันเลย เตรียมให้พร้อมมาก
ทางร้านจัดให้มีจุดสั่งอาหารและจ่ายเงิน Order here จ่ายเงินรับใบเสร็จพร้อมหมายเลขคิว แล้วเลือกที่นั่งทานได้ตามอัธยาศัย จะมีพนักงานตามเสิร์ฟให้เอง ห้องแอร์จะมี 2 ด้านให้เลือก ถ้าเป็นด้านนอกจะมีโต๊ะอยู่นิดหน่อย
เริ่มแรกเราสั่งสเต๊กหมูพริกไทยดำ กาแฟอเมริกาโน่ไม่หวาน ราคาเราว่าโอเคเลยนะ ปกติทั่วไป ไม่มีชาร์จเพิ่มค่าสถานที่แต่อย่างใด รวม 2 อย่าง 194 บาท รสชาติก็จัดว่าดีเลย ลูกค้าทยอยมากันเรื่อย ๆ มีทั้งกลุ่มเพื่อน คู่รัก ครอบครัวเล็ก ๆ ส่วนมากนั่งทานอาหารสั่งกาแฟ แล้วก็ไปถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ เราก็เป็นเช่นนั้น วัตถุประสงค์ที่มาก็อยากได้บรรยากาศ ถ่ายรูปได้เยอะ ๆ ตรงตามโจทย์มาก ใครชอบถ่ายรูปแบบจริงจัง ต้องเผื่อเวลาให้กับที่นี่หน่อยนะคะ น่าเก็บภาพบันทึกความทรงจำทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้ เราใช้เวลาที่นี่ 4 ชั่วโมงกว่าเลยล่ะ จริง ๆ อยากอยู่นานกว่านี้ด้วย
การบริการหลายจุดประทับใจ ทั้งผู้คนและการบริหารจัดการ มีถังขยะตั้งวางเป็นจุด ไม่มากไป ไม่น้อยไปพื้นที่บริเวณกว้างใหญ่มากสำหรับการถ่ายรูป คือจัดสถานที่ขนาดนี้ ถ้าเก็บค่าเข้ายังยินดีจ่ายเลย แต่อันนี้เขาไม่เก็บ ใช้เป็นกล่อง Tip box ตั้งไว้แทน ก็เป็นวิธีที่ดีต่อความรู้สึกนะ แบบนี้เราก็อยากใส่แหละไปที่นี่ ถ้าอยากให้ได้ฟินกันจริง ๆ เผื่อเวลาสักหน่อยจะได้มาดื่มด่ำซึมซับบรรยากาศกันแบบเนิบช้าและผ่อนคลาย
อ่อ...แล้วเรื่องความสะอาด ไม่ใช่แค่เพียงมาตรการความปลอดภัยจาก COVID-19 เท่านั้นนะ ห้องน้ำก็มีรองรับทั้งด้านบนและด้านล่างแยกหญิง-ชาย ทิชชู่ สบู่ล้างมือมีเติมไม่ขาด ในห้องน้ำยังมีฟอกกี้ใส่น้ำยาให้ฉีดฝาชักโครกให้ด้วยนะ สุขอนามัยดีงามค่ะ
เราใช้เวลากับวิวทิวทัศน์ท้องทุ่งด้านหน้านานมาก ก็ว่าเยอะว่าสวยแล้ว แต่ด้านในยังมีอีกส่วนที่เรียกว่า “ทุ่งรวงทอง” ที่นี่เขาจัดสถานที่ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดจริง ๆ เกินจะบรรยายต้องได้ไปเองค่ะ สถานที่จริงมีเยอะกว่ารูปที่ลงมาก
วันที่เราไปเขายังไม่เกี่ยวข้าว (จะเกี่ยววันที่ 15 สิงหาคมนี้ค่ะ) ภาพอย่างที่เห็น รวงข้าวสีทองบนพื้นที่กว้างใหญ่เดินผ่านประตูทุ่งรวงทองเข้าไป มีพืชผลทางการเกษตรของเจ้าของที่ทำเองปลูกเองจริง ๆ ปลอดสาร 100% มาวางขายแบบราคาไม่ผ่านคนกลาง คือราคาถูกมาก น่าซื้อไปซะทุกอย่างถ้าบ้านไหนทำกับข้าวนี่น่าเหมาให้หมดเลย มะม่วงก็เก็บสด ๆ มาจากต้นริมคันนานั่นล่ะ คุณป้ากับคุณพี่เจ้าของอยู่ขายและให้บริการด้วยตัวเอง ซึ่งใจดีมาก พูดคุยอัธยาศัยเป็นกันเอง ของทุกอย่างให้ชิมก่อน ชิมได้ ไม่ซื้อไม่ว่ากัน และยังมีบริการจักรยานให้เช่าปั่นเล่นรอบทุ่งรวงทอง 10 บาทเท่านั้น
เส้นปั่นจักรยานก็จะเป็นวงกลมรอบทุ่งนา ปั่นวนมาบรรจบที่เดิม จ่าย 10 บาท จะปั่นกี่รอบก็ได้ ปั่นดำแล้วดำอีกเขาก็ไม่คิดราคาเพิ่ม
ถ้ามีเวลามากกว่านี้ เราว่านะ เอาหนังสือมานั่งอ่านยังได้เลย ไม่รบกวนใครและไม่มีใครว่าแน่นอน หิวก็เดินออกไปซื้ออาหารทาน เกรงใจกับการใช้สถานที่ก็จ่ายทิปหนัก ๆ
ขนาดว่าเวลาที่เรามาเป็นช่วงบ่ายที่แดดก็ร้อนประมาณนึง แต่มีลมเย็นโชยมาตลอด ๆ น่าผูกเปลนอนมากเลย แต่อย่าถึงขั้นนั้นเลย นี่ร้านกาแฟไม่ใช่บ้านเรา 555+
อีกมุมก็มีจักรยานน้ำให้ปั่นเล่นในบึงอีก จุดนี้ก็เช่นกัน บริการอย่างใส่ใจความปลอดภัยของลูกค้า เขามีป้ายชัดเจน “กรุณาสวมเสื้อชูชีพ” และจะมีคุณลุงท่านนึงคอยดูแลให้คนขึ้นลงและใส่ชูชีพ ไม่มีค่าบริการ มีแต่ Tip box คุณลุงก็ดูใจดีมาก เราว่ามันคือเสน่ห์มากเลย ถ้าเรามาเที่ยวที่แบบนี้ สถานที่ธรรมชาติกึ่ง man made ที่มีการจัดฉากสถานที่ แต่ผู้ให้บริการเป็นชาวบ้านคนพื้นถิ่นจริง ๆ เห็นบรรยากาศแล้วอยากไปปั่นเล่นบ้าง แต่กลัวจะเป็นภาระให้คุณลุงต้องตามเก็บ ก็ทริปมาเดี่ยวว่ายน้ำก็ไม่เป็น งั้นกิจกรรมนี้ขอผ่านละกันค่ะ
ใช้เวลาพอสมควร ถึงเวลาต้องกลับแล้วสิ แต่ใจจริงอยากจะ - อยู่ต่อเลยได้มั้ย -
กลับออกมา ด้วยความร้อนและกระหาย สั่ง mango passion smoothie กับน้ำ 1 ขวด 100 บาท
หลังจากใช้พลังงานเดินรอบทุ่ง เป็นทั้งนางแบบและตากล้องเอง ก็จะเพลีย ๆ หน่อย แต่สนุกมาก
การเดินทางท่องเที่ยวถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่มันเป็นความเหนื่อยที่อิ่มสุขอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้เจอจุดหมายที่ใช่ ได้ตอบโจทย์ความคุ้มค่าทั้งในแง่ของเวลาและราคาอย่าง Fourbuta café ด้วยแล้ว หายเหนื่อยค่ะ แล้วจะแวะมาอีกนะคะ
Fourbuta café ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม เปิดทุกวัน เวลา 08.30 น. – 18.30 น.
แต่ในส่วนของทุ่งรวงทองด้านใน เปิดเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์นะคะ