1 Day Trip : วันเดย์ออฟ (สยาม)

1 Day Trip : วันเดย์ออฟ (สยาม)

  • Wrote on 30/03/2021
  • Traveling date: 23/03/2021
  • 3,673 Views

ทำงานเครียดมาทั้งอาทิตย์ แต่อยากพักผ่อนแบบไม่ต้องอยู่บ้าน วันนี้เลยอยากมาแชร์ ‘1 Day Trip : วันเดย์ออฟ’ แบบง่าย ๆ ในเมืองกรุง ให้กับชาวออฟฟิศที่ทำงานหลังขดหลังแข็งกันมาตลอดหลายวัน

เราเดินทางมาถึงสยาม ที่จัดว่าเป็นย่านฮิตตลอดกาล ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยมัธยม มหา’ลัย จนกระทั่งตอนนี้ที่อยู่ในวัยทำงานแล้ว ที่นี่ก็ยังคงจัดว่าเป็นจุดที่ต้องมาบ่อย ๆ เพราะเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า แถมของกินที่นี่ก็เยอะมากและอร่อยมากด้วยเช่นกัน เราขอเริ่มต้นด้วยของคาวเป็นอย่างแรกสำหรับช่วงสาย ๆ เกือบเที่ยงแบบนี้ กับร้านที่อยู่คู่กับสยามมานานหลายสิบปีอย่างร้าน ‘เจี๊ยบ รสดีเด็ด’

ร้านตกแต่งด้วยโทนสีแดงตัดกับสีดำ บวกกับโต๊ะไม้สีเข้มที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ร้านขนาดค่อนข้างกว้างขวาง รองรับลูกค้าได้หลายโต๊ะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสยามสแควร์ ซอย 2 ที่ป้ายร้านใหญ่มากแบบไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ

เราสั่งเมนูเด็ดของที่นี่มา 3 อย่าง ซึ่งจะขอเริ่มด้วย ‘ข้าวหน้าสตูเนื้อ’ ที่เนื้อเปื่อยนุ่มมาก ผสมกับน้ำสตูที่เข้มข้นสุด ๆ หอม ๆ มัน ๆ ฉ่ำๆ กำลังดีเลย ราดมาบนข้าวสวยร้อน ๆ พอทานคู่กันก็อร่อยลงตัวสุด ๆ

มาถึง ‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำข้น’ ที่เรารักมาก ๆ เข้มข้นมากจริง ๆ เรียกว่าซดน้ำจนเกลี้ยง และนอกจากน้ำจะอร่อยฟินสุด ๆ แล้ว เนื้อก็ดีมากเช่นกัน เนื้อเปื่อยนุ่มมากกก

จบที่ข้าวราดหน้าไก่ ที่ทานง่ายและเป็นจานโปรดของคนรอบข้างหลายคน เป็นเนื้อไก่นุ่ม ๆ หอม ๆ ฉ่ำ ๆ ที่ทานแล้วรู้สึกเหมือนเป็นเมนูที่เคยได้ทานสมัยเด็ก นอกจากนั้นทางร้านยังมีเมนูอร่อย ๆ อีกเพียบ เลือกได้ตามสะดวกเลย!

พอทานของคาวเรียบร้อย แน่นอนว่าเราก็ต้องมาต่อที่ของหวาน เราเดินขึ้นมาบนชั้น 2 ของลิโด้ แล้วก็พบกับร้าน ‘กล้วย กล้วย’ ร้านเล็ก ๆ ปุ๊กปิ๊กน่ารักที่สีเหลืองสดเด่นเตะตามาแต่ไกล ซึ่งร้านนี้น่าจะเป็นวัยเด็กของใครหลาย ๆ คน และเป็นสวรรค์ของคนรักกล้วยอีกด้วย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเมนูกล้วยสมชื่อร้านเลย

เราสั่งเมนู ‘กล้วยพองโต’ ที่เป็นกล้วยทอดร้อน ๆ ด้านนอกกรอบ ๆ ส่วนกล้วยด้านในก็หอมอร่อยกำลังดี ที่สำคัญคือสามารถเลือกท็อปปิ้งได้ด้วย เราเลือกราดช็อกโกแลตและนมข้น อร่อยเข้ากันสุด ๆ

ต่อมาเป็น ‘กล้วยมัมมี่’ ที่เป็นกล้วยห่อด้วยแป้งแล้วนำไปทอดกรอบ ๆ อารมณ์เหมือนปอเปี๊ยะทอดแต่เป็นเมนูหวาน จานนี้เลือกราดคาราเมลกับนมข้น ซึ่งแป้งกรอบ ๆ กับกล้วยด้านใน พอบวกกับอะไรหวาน ๆ แล้วก็คือฟินมาก สองเมนูนี้ทานร้อน ๆ แบบเพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ คือดีจริง ๆ

และสุดท้าย จะขาดเมนูน้ำของที่นี่ไม่ได้เลย เราสั่ง ‘กล้วยทอร์นาโด’ ที่เป็นนมปั่นผสมกล้วย ชื่นใจสุด ๆ

เรียกว่าเป็นมื้อของหวานที่ทำให้หลายคนหวนคิดถึงวัยเด็ก เพราะร้านนี้ก็เป็นร้านฮอตฮิตที่อยู่คู่กับสยามมานานหลายปีแล้ว หรือใครที่ยังไม่เคยลอง ก็อยากให้แวะเข้ามาชิมของอร่อย ๆ แบบนี้กันได้ตรงลิโด้ ชั้น 2 เลย!

พูดถึงสยามแล้ว ก็ต้องนึกถึงการชอปปิงเป็นอันดับต้น ๆ ด้วย เพราะที่นี่มีร้านขายเสื้อผ้าสวย ๆ เรียงรายอยู่เต็มสองฟากฝั่งของถนนเลย เราเดินแวะร้านนู้นร้านนี้มาตลอดทางและในที่สุดก็มาถึงร้าน Matchbox ที่ตั้งอยู่ในสยามสแควร์ ซอย 7 ซึ่งเป็นร้านที่รวบรวมเสื้อผ้าสุดฮิตหลากหลายแบรนด์มาไว้ในตัวตึกสีชมพูสดใสโดดเด่นสะดุดตานี้แห่งนี้ แบบที่ต้องใช้เวลาเลือกซื้อกันแบบไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว เพราะเสื้อสวย ๆ มันเยอะมากจริง ๆ อัดแน่นอยู่ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 เลย

พอชอปปิงเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินเลยขึ้นมาถึงชั้น 3 ของ Matchbox ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ตกแต่งสไตล์เกาหลี หวาน ๆ นุ่ม ๆ ละมุน ๆ อย่างร้าน ‘Be my Glaze’

ร้านโปร่งโล่งสบาย เหมาะแก่การเข้ามานั่งพักทานน้ำทานขนมอร่อย ๆ หรือสำหรับใครที่อยากหามุมถ่ายรูปสวย ๆ เกาหลี ๆ ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เพราะร้านนี้มีมุมน่ารัก ๆ อยู่เพียบ จะไปนั่งอยู่ตรงไหนของร้านก็ถ่ายออกมาสวย ด้วยโทนสีละมุน ๆ ประกอบด้วยสีชมพูพีชอ่อน ๆ สีขาว สีครีม กับแสงไฟสีนวลตา

แสงธรรมชาติส่องลอดเข้ามาผ่านม่านสีขาวโปร่งเพิ่มบรรยากาศโล่งสบายตาให้กับร้าน เบาะนั่งนุ่มสบายแบบที่สามารถนั่งได้ยาว ๆ เลย แถมมีโซนที่เป็นเคาน์เตอร์ติดกระจกที่สามารถนั่งชิล ๆ มองวิวด้านนอกได้ มาพร้อมกับเก้าอี้สูงสีขาวเข้ากัน บนโต๊ะมีพร็อพพวกหนังสือ แจกันน่ารัก ๆ ไว้จัดวางคู่กับอาหาร สำหรับใครที่เป็นสายถ่ายรูปของกินด้วยนะ

มาพูดถึงอาหารกันบ้าง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่านอกจากร้านจะสวยน่ารักปุ๊กปิ๊กแล้ว ของกินก็อร่อยมากด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งขนมหวาน ทั้งน้ำ เราสั่งเป็น ‘Buttermilk waffle with mix fruit’ โดยเมนูนี้เป็นวาฟเฟิลนุ่ม ๆ ท็อปปิ้งเป็นครีม (ที่อร่อยมากกก) กับผลไม้สด ทั้งสตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รี เสิร์ฟมาพร้อมกับเมเปิลไซรัปหอม ๆถัดมาเป็น ‘Craquelin choux stuffed with fresh milk cream and strawberry’ ที่ครีมอร่อยมากกกก ครีมของที่นี่เขาอร่อย หอม นุ่มละมุนไปทุกอณูสัมผัสจริง ๆ ซึ่งตัดกับความเปรี้ยวเล็ก ๆ ของสตรอว์เบอร์รีได้ดีมาก

ต่อมาเป็นเครื่องดื่มกันบ้าง เราสั่ง ‘Malt a Horlicks’ ที่เป็นนมมอลต์หอม ๆ พร้อมเพิ่มความหวานและความหนึบหนับด้วยบราวน์ชูการ์เจลลี่ ส่วนอีกแก้วเป็น ‘ชาพีช’ รสชาติหวานอมเปรี้ยวแบบที่นำมากินปิดท้ายขนมหวาน ๆ แล้วดีมาก

หลังจากท้องอิ่มแล้ว เราก็เดินย่อยมาเรื่อย ๆ จนถึง ‘หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร’ ที่ใครหลาย ๆ คนคงจะรู้สึกใจหายเมื่อทราบข่าวว่าหอศิลป์ฯ กำลังจะหมดสัญญากับทาง กทม. ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนในอนาคต ในช่วงนี้เลยเห็นหลาย ๆ คนเดินทางมาที่หอศิลป์ฯ กันมากขึ้น

หอศิลป์ฯ เป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราเสมอในทุกครั้งที่มา ขณะจมจ่อมอยู่กับทุกผลงานที่จัดแสดงอยู่ด้านใน ความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านออกมาจากทุกงาน เราตกตะกอนอะไรบางอย่างจากมันเสมอ และที่นี่ก็จัดว่าเป็นพื้นที่จัดแสดงงานที่เดินทางสะดวก เป็นศูนย์รวมผลงานที่หลากหลาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนที่สนใจงานศิลปะอยู่แล้วหรือแม้แต่คนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงผลงานเหล่านั้นได้ง่าย

และเราก็คงใจหายมากตามที่กล่าวไปข้างต้นหากพื้นที่จัดแสดงงานแห่งนี้จะถูกปิดตัวลงไปจริง ๆ หรือแม้แต่ถูกเปลี่ยนมือผู้ดูแล ที่ก็ไม่อาจทราบได้ว่าหอศิลป์ฯ จะถูกเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนต่อไป

ก่อนกลับก็ขอแวะซื้อน้ำสักหน่อย ที่ร้าน ‘Gallery Drip Coffee’ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของหอศิลป์ฯ ร้านตกแต่งด้วยโทนอุ่น ๆ เครื่องเรือนเป็นไม้ส่วนใหญ่ บานกระจกกว้างปล่อยให้แสงธรรมชาติจากภายนอกผ่านเข้ามา และเมื่อผลักบานประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกาแฟดริปที่ลอยอวลอยู่ในบรรยากาศได้ทันที

ที่นี่มีเมล็ดกาแฟหลากหลายแบบให้เลือกเลย แล้วนอกจากกาแฟดริปที่เราสั่งมาแล้ว ก็มี ‘กาแฟวุ้น’ ที่เป็นกาแฟดริปนำไปทำเป็นเจลลี่ ส่วนด้านบนเป็นฟองนมนุ่ม ๆ เมื่อผสมกันแล้วคือดีมาก เป็นกลิ่นหวาน ๆ หอม ๆที่ติดรสขมของกาแฟเล็กน้อย พร้อมสัมผัสหนึบ ๆ เด้ง ๆ เย็น ๆ ของเนื้อวุ้น ที่ทานแล้วสดชื่นขึ้นมาเลย เป็นการเติมพลังก่อนต้องออกไปเผชิญหน้ากับระบบขนส่งสาธารณะ / การจราจรของประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ดีมาก ๆ

ซึ่งหลังจากเติมพลังจาก 1 Day Trip ง่าย ๆ ในเมืองกรุง ทั้งทานอาหารคาวหวาน เดินเล่นชอปปิง และสำรวจผลงานศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินแต่ละท่าน ซึ่งต้องยอมรับว่าความรู้สึกในผลงานเหล่านั้นถูกส่งผ่านมาสู่ผู้ชมได้อย่างทรงพลัง และมันเป็นแบบนั้นอยู่เสมอในทุกครั้งที่ได้ตกตะกอนจากผลงานของใครก็ตาม โดยทั้งหมดนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนตัวเองในวันถัดไป แน่นอนว่าเราจะมีกำลังใจพร้อมกลับไปทำงานในสัปดาห์ต่อมาได้อย่างไม่ยากเย็น

Tags:

  • #กรุงเทพมหานคร
  • #สยาม
  • #สยามสแควร์

That's good? Share to your friends!

As you see in this trip

See more about กรุงเทพมหานคร

ซึมซับกรุงเทพฯ ผ่านภารกิจท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป

Wrote on 17/05/20221,470 Views

ชวนเพื่อนเที่ยวกรุงเทพฯ ผ่านภารกิจในหนึ่งวันวันนี้จะพาทุกคนไปซึมซับเมืองหลวง ผ่านภารกิจการเช็คอินตามสถานที่ท่องเที่ยวในก.. [[more]]

งาน “สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้า อยู่เย็น เป็นสนุก”

Wrote on 10/04/2024247 Views

วันที่ 13-15 เมษายน 2567ณ สยามสแควร์ กรุงเทพมหานครจัดกิจกรรมสงกรานต์ภายใต้แนวคิด “งานสงกรานต์ที่ปลอดภัยที่สุดของสยามประเ.. [[more]]

กราบพระ- ชมศิลปะ-ขมากรรม @วัดสุทัศน์

Wrote on 15/01/2024237 Views

วัดสุทัศน์ฯวัดสุทัศน์ฯ หรือวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนตีทอง.. [[more]]

writeABlog
 

shareYourJourney

yourJourneyMayInspireOthers

writeABlog