การเดินทางจากเมืองหลวงอันวุ่นวายอย่างกรุงเทพมหานคร สู่เมืองเล็กริมโขงที่แสนสงบอย่างเชียงคาน ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนบรรยากาศจากความคึกคักสู่ความเงียบสงบเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของประเทศไทยตอนกลางและตอนบนที่รอคอยให้นักเดินทางได้แวะพัก สัมผัส และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันน่าประทับใจระหว่างทาง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในการขับรถท่องเที่ยว และกำลังมองหาเส้นทางใหม่ๆ ที่จะพาคุณไปพบกับความสวยงามและหลากหลายของประเทศไทย การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงคานด้วยรถยนต์ส่วนตัวคืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเลยนะ เพราะตลอดเส้นทาง เพื่อนๆจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่วัดวาอารามเก่าแก่ อุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไปจนถึงทุ่งกังหันลมสุด Unseen พร้อมด้วยคาเฟ่บรรยากาศดี ที่สามารถเติมเต็มความสุขให้กับการเดินทางของทุกคน
รูปภาพโดยคุณสมบูรณ์ ทับทิม @ TripNiceDay
รูปภาพโดย คุณสมบูรณ์ ทับทิม @ TripNiceDay
รูปภาพโดยคุณP Boonsuae@ TripNiceDay
สำหรับจุดหมายแรกในการแวะพักผ่อนและทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทาง ขอแนะนำ วัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทบนหน้าผาอันศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่ารอยพระพุทธบาทนี้ปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน นอกจากความสำคัญทางศาสนาแล้ว วัดพระพุทธฉายยังตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ทำให้บริเวณวัดมีอากาศเย็นสบาย และสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างสวยงาม เหมาะสำหรับการแวะพักผ่อนอิริยาบถและสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนเดินทางต่อ
รูปภาพโดยคุณ suthida chaiwong @ TripNiceDay
รูปภาพโดยคุณ Kaweewat Suphaphon @ TripNiceDay
เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมตัวพบกับความเขียวขจีของผืนป่าและขุนเขาที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ป่าเมฆ" เนื่องจากมีสภาพป่าที่ชุ่มชื้นและปกคลุมไปด้วยหมอกตลอดทั้งปี ที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง เช่น จุดชมวิวภูค้อ จุดชมวิวหลัก และจุดชมวิวถ้ำผาหงษ์ แต่ละจุดสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเทือกเขาน้ำหนาวที่สลับซับซ้อนได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง ให้คุณได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอย่างใกล้ชิด
รูปภาพโดยคุณ Chidchnok Didtanate @ TripNiceDay
จากอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว มุ่งหน้าสู่ วัดผาซ่อนแก้ว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวUnseen ของจังหวัดเพชรบูรณ์ วัดแห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและแปลกตา ด้วยการนำแก้ว กระเบื้องสี และเซรามิก มาประดับประดาตกแต่งองค์พระเจดีย์และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดอย่างวิจิตรบรรจง ทำให้เกิดเป็นลวดลายและสีสันที่สวยงามสะดุดตา นอกจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว วัดผาซ่อนแก้วยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักใจและแสวงหาความสงบทางจิตวิญญาณ
รูปภาพโดยคุณ แตงไทย แสงดวงดาว @ TripNiceDay
เดินทางต่อไปยัง ทุ่งกังหันลม เขาค้อ แลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเพชรบูรณ์ ที่นี่เป็นทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เมื่อมาถึง คุณจะได้พบกับกังหันลมสีขาวขนาดใหญ่เรียงรายอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจี ตัดกับท้องฟ้าสีครามสดใส เป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจอย่างยิ่ง นอกจากความสวยงามของทุ่งกังหันลมแล้ว บริเวณนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขาค้อได้อย่างกว้างไกลอีกด้วย
รูปภาพโดย Facebook Page : ไร่GB เขาค้อ
สำหรับนักเดินทางที่ต้องการเติมพลังด้วยเครื่องดื่มและอาหารอร่อยๆ พร้อมชมวิวสวยๆ ไร่ GB เขาค้อ เป็นอีกหนึ่งจุดแวะพักที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์น่ารักๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายมุมให้เลือก นอกจากนี้ ไร่ GB เขาค้อยังมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารตะวันตก และเครื่องดื่มต่างๆ ที่พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลอง
รูปภาพโดยคุณ เสาวลักษณ์ แซ่โค้ว @ TripNiceDay
รูปภาพโดยคุณ Phongsit Krabao @ TripNiceDay
รูปภาพโดยคุณ Noppawat เกาะสีชัง @ TripNiceDay
ก่อนจะเดินทางเข้าสู่เชียงคาน สถานที่สุดท้ายที่อยากแนะนำให้แวะคือ ภูทอก จังหวัดเลย ภูทอกเป็นภูเขาที่ไม่สูงชันมากนัก แต่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามและมีชื่อเสียงของจังหวัดเลย หากคุณเดินทางไปถึงภูทอกในช่วงเช้าตรู่ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของทะเลหมอกสีขาวที่ปกคลุมทั่วหุบเขา เป็นภาพที่งดงามราวกับอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยาย นอกจากทะเลหมอกแล้ว ภูทอกยังเป็นที่ตั้งของวัดพระบาทภูทอก ซึ่งเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ และมีบันไดไม้ทอดขึ้นสู่ยอดเขา ให้คุณได้เดินชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางอีกด้วย
เมื่อเดินทางถึงเชียงคาน เมืองเล็กริมโขงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ คุณจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบและเรียบง่ายของวิถีชีวิตริมน้ำโขง ที่นี่มีบ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ มีถนนคนเดินเชียงคานที่คึกคักในยามค่ำคืน และมีร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดีให้คุณได้นั่งชิลล์ๆ ริมน้ำโขง การเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เชียงคาน ไม่ใช่แค่การเดินทางเพื่อไปถึงจุดหมายปลายทางเท่านั้น แต่เป็นการเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และเก็บเกี่ยวความทรงจำอันแสนพิเศษระหว่างทาง หวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่เชียงคานด้วยตัวคุณเอง
รูปภาพโดยคุณo supawat @ TripNiceDay
ข้อมูลการเดินทางเบื้องต้น
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ และใช้ทางหลวงหมายเลข 12 มุ่งหน้าสู่จังหวัดเลย และสุดท้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 201 และ 211 เข้าสู่เชียงคาน โดยมีระยะทางรวมประมาณ 550 - 600 กิโลเมตร
ช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวที่สุดคือ ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) และฤดูฝน (มิถุนายน - ตุลาคม) เพราะจะได้สัมผัสความเขียวขจีตลอดเส้นทาง