อากาศดีที่สามหมอก

อากาศดีที่สามหมอก

  • เขียน 26/10/2021
  • วันที่เดินทาง 03/03/2003
  • อ่าน 776 ครั้ง

อากาศดีที่สามหมอก

เมื่อเดือนมีนาคม49 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเยือนแดนสามหมอกแม่ฮ่องสอนมา ว่าแต่ทำไมถึงเรียกว่าแดนสามหมอกหล่ะ ก็ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา พอในฤดูหนาวอากาศก็เย็นจัดจนเกิดหมอกหนาในตอนเช้า ส่วนในหน้าฝนนั้น ฝนก็ตกหนักจนเห็นเป็นหมอกทึบ และฤดูร้อนก็มักจะเกิดไฟป่าบ่อยครั้ง จนเห็นควันไฟเหมืนเป็นเมฆหมอก ด้วยประการฉะนี้แล จึงเรียกว่า “เมืองสามหมอก” นั่นเอง เราเลือกเดินทาง กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน โดยเครื่องบินเพื่อประหยัดเวลาการเดินทางและราคาก็ไม่แพงอย่างที่เราคาดไว้ เราไปถึงสนามบินแม่ฮ่องสอนตอนประมาณบ่ายโมง ด้วยความเป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางหุบเขานั้น ทำให้เครื่องบินขึ้นลงรันเวย์ได้ทางเดียวเท่านั้น เพราะทางด้านทิศใต้ของสนามบินเป็นภูเขาลูกโตตั้งตระหง่านอยู่ หลังจากที่ออกมาจากสนามบินแล้ว เราก็มารับรถที่ได้ติดต่อเช่าไว้ก่อนหน้านี้ รถที่นี่นั้นจะนิยมแต่รถเกียร์ประปุกทั้งนั้น เพราะถนนหนทางที่นี่โค้งและสูงชันมาก งั้นเราขอเรียกว่า “เจ้าปุ๊กลุก” ก็แล้วกัน

หลังจากที่เราแวะเติมพลังให้เจ้าปุ๊กลุกแล้ว ก็ใช้เส้นทาง 1095 มุ่งหน้าไป “ภูโคลน” กัน ที่นี่จะเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาผสมกับดินทำให้มีแร่ธาตุต่างๆ แล้วก็เป็นสถานที่ Unseen Thailand ด้วยนะ เราลองซื้อแพคเกจ “พอกหน้า” ดู โดยเค้าจะให้เราล้างหน้าก่อน จากนั้นก็เอาโคลนอุ่นๆ มาพอกบนหน้าเราแล้วทิ้งไว้พักใหญ่ ให้มันตึงๆ แล้วล้างออก ระหว่างทางเราก็แวะเที่ยวตามที่ต่างๆ อย่างน้ำตกผาเสื่อ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปหมู่บ้าน “รวมไทย” เพื่อจะหาที่พักกัน สุดถนนของหมู่บ้านนี้จะเป็นเขตทหาร และพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติปางอุ๋ง ที่ปางอุ๋งนี้เป็นอ่างเก็บน้ำล้อมรอบด้วยภูเขา มีคนเคยบอกว่าที่นี่เป็น “สวิสเมืองไทย” (จะจริงเปล่าต้องมาดูกันเอง) แต่ทำไมตอนหกโมงเช้าจะมีหงษ์ตัวนึงว่ายผ่านเข้าไปในอุทยาน พอหกโมงเย็นก็จะว่ายออกมาหายเข้าไปในป่า (อย่างกับใส่ถ่านตั้งโปรแกรมไว้แหน่ะ)

เช้าวันใหม่เรารีบเก็บของออกจากที่พัก พาเจ้าปุ๊กลุ๊กมุ่งหน้าไปหมู่บ้าน “รักไทย” ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนานที่ย้ายถิ่นมา จะนิยมปลูกชาและขายอาหารยูนาน เราก็เลยได้แวะชิมชาลิ้มลองอาหารจีนยูนานกัน ไม่ว่าจะเป็นยำใบชาสด ที่เด็ดเอายอดใบชาสดจากต้นมาล้างให้สะอาด ใส่หอมใหญ่, มะเขือเทศ, หมูสับ กับน้ำยำแบบไทยๆ กลิ่นหอมของใบชาที่มีรสขมนิดๆ กับน้ำยำเปรี้ยวๆ เข้ากันดีจริงๆ แล้วยังมีขาหมูหมั่นโถว ที่เป็นขาหมูตุ๋นหอมๆ ไม่มันและหวานเลี่ยน รสชาดเค็มนิดๆ กลมกล่อมกำลังดี กินกับหมั่นโถวร้อนๆ แป้งนุ่มๆ จุ่มน้ำชุ่มๆ อร่อยอยากบอกใครเชียว

หลังจากที่เราอิ่มอร่อยและจับจ่ายซื้อของในหมู่บ้านรักไทยแล้ว เราก็ขับเจ้าปุ๊กลุ๊กมุ่งหน้าเข้าเมืองกัน เราแวะเอาของเก็บที่พักในเมืองกันแล้ว ก็ออกมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน แวะไปนมัสการวัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งอยู่บนเขาสามารถมองลงไปเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้ จากนั้นก็ไปวัดจองคำและวัดจองกลาง ภายในวัดจะมีตุ๊กตาไม้แกะสลักเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดกไว้อยู่ 33 ตัว ได้มาจากพม่าเมื่อประมาณปี 2400 และมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าอีกมากมาย ตกเย็นเราก็แวะกินข้าวกันที่ร้านในเมือง ใกล้ๆ กันจะมีตลาดนัดคนเดิน มีทั้งของพื้นเมือง, หัตถกรรมชาวเขา และเสื้อผ้าจิปาถะขายตลอดถนน หลังจากที่เราจับจ่ายเสร็จก็ไปสะดุดกับกลิ่นหอมของโรตีที่โชยมาจากรถเข็นที่หน้าไปรษณีย์ เราไม่เคยเห็นกระป๋องเนยที่ลุงใช้ทอด ก็เลยหยิบขึ้นมาดู โอ้โห..เนยนี่มาจากนิวซีแลนด์ครับ ลุงขายโรตีอันละสิบ บาท ใช้เนยกระป๋องละเกือบสองร้อยบาทครับ

เช้านี้เราตื่นแบบสบายๆ แวะเดินชมธรรมชาติ แล้วจึงขับเจ้าปุ๊กลุ๊กเข้าเมืองไปศูนย์ศิลปาชีพแวะซื้อสินค้าและขนมต่างๆ จากนั้นก็ไปตลาดซื้อไส้อั่วกับข้าวเหนียวที่ห่ออยู่ใน “ใบตองตึง” ไปกินที่สนามบิน แล้วก็ถึงเวลาจากลาเจ้าปุ๊กลุ๊กกับเมืองสามหมอกซะแล้ว

ปล. โอกาสหน้าหากได้มาย่ำแดนเมืองสามหมอกอีก ก็คงได้เจ้าปุ๊กลุ๊กเป็นพาหนะไปเที่ยวสร้างความสุขสนุกกันอีกนะ แล้วเจอกัน

ทอมมี่ ลี

cr: เนื้อหาดังกล่าว เคยนำไปลงคอลัมภ์ "ป.ล.ขอให้มีความสุข" ใน "เสาร์สวัสดี" ฉบับแทรกของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 21 ตุลาคม 2549

คำค้น:

  • #แม่ฮ่องสอน
  • #ปางอุ๋ง
  • #สปาโคลน
  • #เที่ยวเหนือ
  • #สามหมอก

จบแล้ว อยากแชร์ให้เพื่อนอ่านไหม?

writeABlog
 

shareYourJourney

yourJourneyMayInspireOthers

writeABlog