จุดเด่นสะดุดตาของที่นี่จะเป็นการตกแต่งด้วยร่มหลากสีสัน ด้านหน้าจะพบกับน้องหอยทากฉีกยิ้มสดใสด้วยใบหน้าบอกกล่าวแสดงความหมายได้ว่ายินดีต้อนรับแขกผู้มาเยือน

และน้องหอยทากนี่ล่ะ ที่ดูจะเป็นพระเอกของที่นี่ เมื่อเข้าประตูไปจะเห็นอุทยานหอยทากอาช่า หรือ Achatina แต่ด้วยเรามาที่นี่เกือบหกโมงเย็นเขาปิดอุทยานฯ น้องต้องพักผ่อนแล้ว จึงอดเจอน้องหอยทากตัวเป็น ๆ ให้ได้ทักทายกันเลย

ด้านในมีจุดถ่ายรูปมากมาย ตกแต่งทั้งด้วยจักรยาน รถโบราณ แคร่ไม้ไผ่ ซุ้มร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มีแบบครบเบ็ดเสร็จ ทั้งประเภทส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ผัดไท ของหวาน ไอศกรีม กาแฟ เครื่องดื่ม และอีกมากมาย ที่นั่งทานอาหารก็มีเยอะพอสมควร นั่งทานไป ชมทุ่งไป

และในวันหยุดแบบนี้ ก็จะมีดนตรีสด ๆ นักร้อง 2 คน คอยผลัดเปลี่ยนกันมาร้องบรรเลงเพลงเพราะให้ฟังกันแบบเพลิน ๆ ทั้งวันไปเลย

ในส่วนของทุ่งนา ก็จะมีสะพานไม้ข้ามลำคลองและบึงบัว มีเรือให้ได้พายเล่นแบบครบองค์ประกอบ ให้อาหารปลาได้ด้วย เดินไปอีกก็จะเจอสะพานสีรุ้งทอดยาวไปยังชิงช้าให้ได้นั่งเล่นแกว่งไกวไปพูดคุยกันไป ยังค่ะ ยังไม่หมด ทั้งยังมีกระท่อมริมทุ่งหรือจะเรียกกระท่อมปลายนาก็สุดแล้วแต่ เดินตามสะพานไม้ไปอีกก็จะมีซุ้มหกเหลี่ยมให้ได้นั่งเล่นนั่งถ่ายรูปได้แบบทุกทิศทาง ทั้งหมดนี้ในพื้นกว่า 12 ไร่

ด้วยเรามาถึงที่นี่เย็นมากแล้ว เราน่าจะเป็นลูกค้าคนสุดท้ายที่กลับออกไป ร้านค้าที่ขายอาหารเก็บกันเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังได้ลองสั่งผัดไทกุ้งสดมาทาน ราคา 70 บาท

อ่อ กลับไปที่พระเอกของเรา หอยทากอาช่า พี่เขาเล่าว่า เป็นหอยทากที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น เข้าไทยมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โน่น และด้วยหอยทากเป็นศัตรูตัวฉกาจของพืชผลพืชไร่ของเกษตรกร จึงได้มีการนำมาเลี้ยงเพื่อควบคุมการแพร่พันธุ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในการวิจัยและพัฒนาสูตรทำเป็นผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทาก สกัดเป็นเซรั่มใช้ทาผิวหน้า ด้วยเมือกของน้องมีคุณสมบัติทางยาและเครื่องสำอาง สรรพคุณมากมายทั้งผิวนุ่ม ลบเลือนริ้วรอย ชะลอวัย ลดการอักเสบของผิวหนัง ฯลฯ นอกจากช่วยแก้ปัญหาให้เกษตรกรเรื่องศัตรูพืชแล้ว ยังช่วยให้คนในชุมชนและกลุ่มผู้สูงอายุในนครนายกมีรายได้จากการเก็บเมือกในฟาร์มเลี้ยงหอยทาก มีการจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงหอยทากอาช่าอีกด้วย น่าสนับสนุนและส่งเสริมเราจึงได้อุดหนุนขนาดเล็กมาทดลอง 1 ขวด ในราคา 350 บาท (5 ml) ขนาดใหญ่ 1,900 บาท (30 ml) จะใช้ดีจริงมั้ยต้องพิสูจน์ค่ะ

เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 – 19.00 น. ไม่มีค่าเข้า (สามารถหยอดกล่องค่าบำรุงสถานที่ได้ค่ะ)

การแสดงดนตรีจะมีเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มเล่น 10.00 – 18.00 น.