ใครว่าเที่ยวชุมชนจะต้องน่าเบื่อ ใครว่าเที่ยวชุมชนจะต้องลำบาก เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนพอได้ยินเวลาใครพูดถึงเที่ยวชุมชนจะต้องนึกถึงอะไรแบบนี้แน่เลยครับ ซึ่งตอนแรกผมเองก็คิดแบบนั้น ทำให้การเปิดใจเที่ยวชุมชนเป็นเรื่องยากพอสมควร แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสไปลองเที่ยวชุมชนที่วังน้ำเขียว โคราช บอกเลยว่าผิดกับที่คิดไว้ลิบ
ฟอกปอด หยอกหมอก กอดภูเขา 🌳😊
ชุมชนบ้านสุขสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเขียวเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่อยู่ในเส้นทางผ่านไปผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยในชุมชนนี้มีแม่บังอรเป็นหัวหน้าชุมชนในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาทำกิจกรรมเที่ยวชุมชนในครั้งนี้
ทันทีที่ลงรถ ผมก็เดินไปที่อ่างเก็บน้ำทันทีเพราะอดใจกับภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้าไม่ไหว เป็นอ่างเก็บน้ำของชุมชนขนาดใหญ่ที่มีพื้นหลังเป็นภูเขาเขียวขจี ประกอบกับลมเย็นๆ อากาศบริสุทธิ์ชวนสูดหายใจได้เต็มปอด เดินขึ้นไปบนม้านั่งที่พาดอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่ทำจากไม้ไผ่ เก็บภาพสวยๆ มาฝากกัน
ที่นี่มีโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรมด้วย โฮมสเตย์ที่นี่ได้รับมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยปี 2562 ถ้าใครสนใจพักก็ลองติดต่อแม่บังอรถึงรายละเอียดได้เลยที่เบอร์ 093-372-3122 ส่วนใครที่มาทำกิจกรรมครึ่งวันก็ตามมาดูกันครับว่าจะมีอะไรบ้าง
หลังจากเดินถ่ายรูปอยู่พักนึง แม่ๆก็หาน้ำสมุนไพรสีชมพูสวยงามมาให้ทาน เป็นน้ำฝางที่มีสรรพคุณหลายอย่าง ทั้งลดการอักเสบ ช่วยบำรุงเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างปกติ จากนั้นเราก็เริ่มทำกิจกรรมแรกของทริปนี้กัน นั่นก็คือการทำสลัดโรลครับ
สลัดโรลจากผลผลิตของชุมชน
ส่วนตัวเป็นคนชอบทานผัก และสลัดโรลอยู่แล้ว(ปกติผมทานมัง) ถ้าซื้อตามร้านค้าในกรุงเทพฯ ก็อาจจะได้ผักที่ไม่สดมาก แป้งหนาไส้น้อย หรืออะไรก็ตามแต่ แต่พอมาได้ทำเอง โรลเอง ใช้วัตถุดิบสดใหม่ที่เพิ่งเก็บมาจากแปลง กลับรู้สึกสนุก ทำไปทานไป คุยกันไป เป็นโมเมนท์ที่น่าประทับใจ และเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ช่วยให้ลืมเรื่องงานที่แสนทุกข์ยากไปได้เลย
ผักที่สดใหม่และกรอบ พออยู่ในสลัดโรลแล้วอร่อยขึ้นเยอะครับ ทานไปคำแรกก็รู้เลยว่าต่างจากที่เคยกินในกรุงเทพฯ และจะใส่ไส้เท่าไหร่ยังไงก็ได้ตามที่เราชอบ
กาแฟตื่นเต้น เครื่องชงกาแฟดริปภูมิปัญญาชาวบ้าน
พอทำสลัดโรลได้สักครึ่งชั่วโมง แม่บังอรก็ชวนเราไปดูการทำกาแฟดริป กาแฟดริปที่นี่เป็นกาแฟที่ใช้เมล็ดที่ปลูกในวังน้ำเขียว มีจุดที่น่าสนใจคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการชงกาแฟครับ โดยจะใช้ไม้ไผ่ทำเป็นฐาน และใช้หวด(ที่ใช้นึ่งข้าวเหนียว) มาเป็นดริปเปอร์ข้างบน
ตอนแรกนึกว่าเป็นตัวตั้งโชว์สวยๆ แต่พอได้ลองเห็นกรรมวิธีในการชงใช้งานจริงต้องบอกเลยว่าแปลกตา และน่าประทับใจในวิธีการประยุกต์ใช้สิ่งของใกล้ตัวของชุมชนที่นี่
ใครที่ไม่ชอบดื่มกาแฟดำ ก็สามารถเติมน้ำอ้อย หรือใส่นมตามที่ตัวเองชื่นชอบได้เลย รสชาติกาแฟจะเข้มข้น ถ้าอยากได้อ่อนๆ หน่อยก็ดื่มที่น้ำสอง หรือน้ำสามได้ตามสะดวก
วาดภาพย้อนวัย ระบายสีจากธรรมชาติ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร..แต่กลับมีอะไร คือการวาดภาพระบายสีครับ มันเป็นกิจกรรมที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ช่วยให้เรานึกย้อนถึงวัยเด็กที่อยากจะวาดอะไรก็วาด ได้คุยได้ทำกิจกรรมกับเพื่อน ได้ใช้เวลาร่วมกัน หัวเราะคุยเรื่องสบายๆ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยทำให้ลืมเรื่องเครียดได้ดี
ประกอบกับบรรยากาศที่ดีของวังน้ำเขียว อากาศเย็นๆใต้ต้นไม้ใหญ่ มีลมพัดโชยใกล้แอ่งน้ำ ชวนให้อยากหายใจอย่างเต็มปอด และอยากจะเก็บภาพวันเวลานี้ไว้อยู่กับตัวนานๆ
โดยสีที่ระบาย เป็นสีที่ไม่ผสมสารเคมีใดๆ เป็นสีที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติเช่น ขมิ้น อัญชัน หม่อน และอื่นๆ ใครที่พาเด็กๆมาทำกิจกรรมก็หายห่วงได้เลย
เราใช้เวลาทำสลัดโรล ระบายสี และเรียนรู้การชงกาแฟอยู่ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง พอดีจะมีไปเที่ยวผาเก็บตะวันกันต่อเลยขอเร่งเวลาการทำกิจกรรมนิดหน่อย ซึ่งทางชุมชนก็ใจดีน่ารัก ดูแลเราตลอด อยากจะได้อะไร อยากจะทำอะไร ก็คอยให้ความรู้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ปลูกผัก เหมือนตอนเรียนวิชาเกษตร
กิจกรรมสุดท้ายเป็นการลงแปลงปลูกผักของชุมชน แม่บังอรพาเราเดินเข้าไปข้างหลังข้างแอ่งน้ำ เป็นแปลงปลูกผักที่สร้างผลผลิตผักปลอดสารที่ชุมชนเอาไว้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว และใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบทำสลัดโรลที่เราเพิ่งทานกันไปเมื่อสักครู่
กิจกรรมนี้ก็จะเป็นการนำต้นกล้าที่เพาะไว้แล้วในหลุมปลูกออกมาลงแปลง โดยขั้นตอนการลงแปลงก็เหมือนกับที่เราได้เรียนรู้กันตอนเด็กๆ นั่นก็คือใช้หางช้อนกลางจิ้มลงไปแล้วเอามาใส่หลุมบนแปลงครับ
ระหว่างที่ทำไป ก็คุยกันไป แม่บังอรก็เล่าเรื่องชุมชนชวนคุยอย่างสนุกสนาน สอนเรื่องการทำการเกษตรเบื้องต้นอย่างเป็นกันเอง เป็นสถานที่ และช่วงเวลาที่เราได้ใช้เวลาเรียนรู้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผิดหรือถูก ทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก และช่วยให้เราประทับใจกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตรงหน้า
จะมีสักกี่ครั้งที่เราโตแล้ว และสามารถทำอะไรสบายใจ ไม่ต้องแคร์เรื่องทำผิดทำถูก ไม่ต้องกังวลเรื่องผลลัพธ์ และความคาดหวัง แค่รู้สึกสนุก ได้หัวเราะกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในช่วงเวลานั้นๆ
เที่ยวชุมชนครึ่งวัน สบายใจไปอีกนาน
เป็นอีกหนึ่งทริปในวังน้ำเขียวที่เรารู้สึกประทับใจกับการมาเที่ยวที่นี่มากๆ ถึงแม้จะได้ใช้เวลาอยู่ไม่นานประมาณ 3 ชั่วโมง แต่เราก็รู้สึกดี อิ่มเอม และอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้งเมื่อมีโอกาส
เอาเป็นว่า ใครที่สนใจเที่ยวชุมชนบ้านสุขสมบูรณ์ ก็สามารถติดต่อสอบถามแม่บังอรได้ที่เบอร์ 093-372-3122 หรือขอข้อมูลการท่องเที่ยวชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ที่เพจ ททท.นครราชสีมา ได้เลยครับ